
ปลายเดือนกันยายน 2556
จากเมือง Chiusi ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศอิตาลี เราโดยสารรถไฟสายหลักมุ่งหน้าลงใต้ ผ่านโรม โดยไม่แวะพักหรือเปลี่ยนขบวนรถ เพราะจุดหมายปลายทางในวันนี้ของเราอยู่ที่เมืองชายทะเลทางใต้ที่ชื่อ Sorrento ซึ่งขบวนรถไฟสายหลักจะไปส่งเราที่เมือง Naples
และจากสถานีรถไฟเมือง Naples เราต้องไปต่อรถไฟท้องถิ่นที่ชื่อ Circumvesuviana สาย Naples – Sorrento ที่มีสถานีตามรายทางให้จอดแวะมากกว่า 30 สถานี และใช้เวลาในการเดินทางมากกว่าหนึ่งชั่วโมง

ที่จอดเรือประมง ที่ทำเป็นที่พักผ่อนสำหรับคนที่อยากนอนอาบแดดติดทะเล
การเดินทางท่องโลกในยุคปัจจุบัน โลกของอินเทอร์เน็ตช่วยย่นระยะเวลาในการค้นหาข้อมูล การเดินทางและเสาะหาที่พักให้เราได้มากมาย เราใช้ www.booking.com จองโรงแรมที่พักไว้ล่วงหน้า โดยเลือกพักที่ Hotel Mignon ด้วยเหตุผลหลัก 2-3 ข้อ นั่นคือ หนึ่ง-ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ และแหล่งท่องเที่ยวในเมืองแบบที่สามารถเดินลากกระเป๋าไปได้สบายๆ สอง-สนนราคา 3 คืน 318 ยูโร พร้อมอาหารเช้า สำหรับสองคน และสาม-คะแนนความพึงพอใจที่ผู้เข้าพักก่อนหน้าได้รีวิวรายงานเอาไว้
Sorrento เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ชายทะเล ที่นักเที่ยวเอาไว้เป็นจุดพักสำหรับที่จะเดินทางต่อไปยัง Amalfi Coast และ Capri ซึ่งมีเสียงร่ำลือกันนักหนาว่าทะเลที่นั่นสวยงามมากมาย แต่สำหรับเรายอมรับว่าพอได้มาเห็น Sorrento และมีเวลาเพียงไม่กี่วัน ก็เลยขอสัมผัสซึบซับกับบรรยากาศและอารมณ์ของ Sorrento ให้เต็มอิ่มและเหมือนพยายามบอกกับตัวเองว่า คงจะได้กลับมาแถวๆ นี้อีกครั้ง, ครั้งหน้าค่อยไป Amalfi และ Capri ก็ได้เนอะ

ย่าน Marina Grande เป็นท่าเรือและชุมชนที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเมือง Sorrento เท่าไรนัก สามารถเดินเล่นได้สบาย มีร้านอาหารจากสมาคมชาวประมง และมีบรรยากาศที่ดีในการนั่งดื่มไวน์ริมทะเลในมื้อเที่ยง เป็นย่านที่ติดใจขนาดไปถึงสองรอบ
รถไฟท้องถิ่นจาก Naples ไป Sorrento มีคนใช้บริการแน่นมากในช่วงบ่ายวันที่เราเดินทาง ด้วยที่ว่ารถไฟขบวนนี้นอกจากคนอิตาลีในละแวกนั้นแล้ว นักท่องเที่ยวที่จะไป Pompeii ก็จะใช้บริการรถไฟขบวนนี้ด้วยเหมือนกัน เพราะ Pompeii นั้นอยู่ระหว่างทางที่จะไป Sorrento ดังนั้นหลังจากที่กระเหรี่ยงชาวไทยสองคน เบียดเอาตัวเองและกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ขึ้นรถไฟไปได้แล้ว เรายังต้องคอยระแวดระวังกระเป๋าสะพาย กระเป๋าสตางค์จากบรรดาคนอิตาเลี่ยนและคุณพี่มืดอีกกลุ่ม ด้วยที่ว่าใครๆ ต่างก็เตือนกันตลอดว่าเที่ยวที่อิตาลีนั้นโจรและนักล้วงกระเป๋าชุมยิ่งกว่าอะไร
แต่จะว่าไปแล้วตลอดเวลาสองอาทิตย์ที่อยู่ในอิตาลี ทั้งในเมืองใหญ่เมืองเล็ก กระเป๋าสะพาย และกระเป๋าสตางค์เราก็ปลอดภัยเป็นอย่างดี ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเราพยายามแต่งตัวโทรมๆ หรือว่าฝรั่งนักท่องเที่ยวยุโรปและอเมริกา ก็อาจจะกลัวเรา แบบที่เรากลัวโจรอิตาเลี่ยนเหมือนกัน!
Fiat รถอิตาเลี่ยนที่หลายคน(เคย)หลงรัก
ช่วงที่เราไปเที่ยวอิตาลีในปลายเดือนกันยายน เป็นช่วงที่อากาศทางใต้ของอิตาลีออกจะดีมากๆ ดังนั้น Sorrento จึงมีคนไปเที่ยวไม่น้อย นอกจากนักท่องเที่ยวจากหลายๆ มุมของโลกแล้ว ยังมีทั้งคนปั่นจักรยาน และกลุ่มนักบิดมอเตอร์ไซค์ฮาร์เล่ย์จากนาโปลี เรียกได้ว่าในเมืองนั้นคึกคักกันตั้งแต่บ่ายๆ เลยทีเดียว
ความที่เป็นเมืองท่องเที่ยว Sorrento ก็ยังมีกิจกรรมหลากหลายให้ได้ดูชม ไม่ว่าจะเป็นการแสดงดนตรีดีๆ ที่มีตั้งแต่คอนเสิร์ตแบบต้องซื้อบัตรเข้าชมโดยเฉพาะแจ็ซซ์ แต่ถ้าอยากสัมผัสกับดนตรีอิตาเลี่ยนมิวสิค ขอแนะนำให้นั่งดื่มกินตามร้านอาหารริมทะเล สักพักจะมีนักดนตรีท้องถิ่นกับแอ็คคอร์เดี้ยนและกีตาร์ มาขับกล่อมตามโต๊ะอาหาร ถ้าพึงพอใจก็ค่อยให้เงิน และถ้าติดใจมากแบบเรา ก็สามารถซื้อซีดีผลงานเพลงที่พวกเขาบันทึกเสียงกลับมาฟังต่อที่บ้านด้วยก็ยังได้
พูดถึงนักดนตรีท้องถิ่นที่ Sorrento ในช่วงเวลาที่รถไฟคนไม่เยอะมากนัก คุณก็จะได้เห็นวงดนตรีอะคูสติกทั้งวง หอบกีตาร์ แอ็คคอร์เดี้ยน ดับเบิ้ลเบสส์ และเครื่องเป่า ขึ้นมาร้องสดๆ ให้คุณได้ฟังบนโบกี้รถไฟเลยทีเดียว พวกเขาขึ้นสถานีนั้น ลงสถานีนี้สลับกันไปในวันหยุด บรรเลงดนตรีอะคูสติก ร้องสดๆ แลกกับเงินที่คนฟังพอใจจะหยิบยื่นหย่อนลงในกล่องให้

รถพานักท่องเที่ยวชมเมือง


ชุมนุมฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน

รถเก่า กับ รถใหม่ / วันหยุดสุดสัปดาห์รถราไม่ค่อยมี คนเดินกันเป็นส่วนใหญ่

อีกบรรยากาศของบ้านในเมืองนี้

มุมมองจาก Piazza Tasso ในตัวเมืองมองเห็นทะเลอยู่ไม่ไกล / บางมุมที่สามารถเห็นได้ใน Sorrento
และค่ำคืนหนึ่งบนถนนปากซอยโรงแรมที่เราพัก ก็ได้เห็นเด็กวัยรุ่นชายหญิงกลุ่มหนึ่ง เปิดซีดีเพลงแด๊นซ์จากเครื่องเล่นกระเป๋าหิ้ว และพากันโชว์ลีลาท่าทางโชว์สเต็ปเต้นกลางถนน โดยมีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่รวมทั้งเราคอยปรบมือส่งเสียงเชียร์ เด็กๆ เต้นกันเต็มที่ คนดูก็สนุก และให้สตางค์กันตามสมควรและเป็นโชคดีที่ช่วงไปเที่ยวอยู่ใน Sorrento มีงานแสดงผลงานของศิลปินดังชาวสเปน Salvador Dali (1904-1989) ชุด THE DALI UNIVERSE ให้ได้ดูได้ชมกันอีกด้วย

ไปเจอศิลปินดัง Dali โดยไม่ได้นัดหมาย

Inn Bufalito หนึ่งในร้านอาหารดังของเมืองนี้ เมนูแนะนำคงเดากันได้ว่าเป็น Buffalo Meat Carpaccio

บรรยากาศร้านอาหารบ้านๆ ของสมาคมชาวประมง

อาหารง่ายๆ กับเฮ้าส์ไวน์ขาวร้านชาวประมง
กลับมาจากเดินทางคราวนั้น เคยถามตัวเองอยู่เหมือนกันว่า ทำไมถึงชอบเมืองนี้นักหนา อาจจะเป็นเพราะบ้านเมืองที่ดูเหมือนฉากบางฉากในหนังบางเรื่องที่เคยดู อาจจะด้วยผู้คนที่ดูเรียบง่าย บ้านๆ ไม่เหยียดไม่หยิ่ง อาจจะเป็นเพราะอาหารการกินที่ถูกปาก อย่างปลาหมึกย่างทาน้ำมันมะกอกบีบมะนาว หรือแค่สปาเก็ตตี้ริมทะเลมื้อกลางวันที่ร้านริมทะเลที่ตอนเสิร์ฟมาดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่เมื่อได้ลิ้มรสชาติแล้วจึงรู้ว่าไม่ธรรมดาเลย
เรื่องบางเรื่องก็เหมือนจะหาเหตุผลให้กับมันไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม? รู้แต่ว่าถ้ามีคนถามถึงอิตาลีที่เราได้มีโอกาสไปเที่ยวมาหลายเมือง แต่เมืองแรกสุดที่ผมนึกถึงมักจะเป็น Sorrento อยู่ทุกครั้ง
ถึงขนาดเปรยๆ ว่าอยากจะกลับไปที่นั่นอีกสักครั้งในชีวิตนี้.
เรื่อง: สมชาย
ภาพ: สมชาย/วัฒนาวรรณ