ขายไตไปวิ่ง 'Walt Disney World Marathon Weekend'
พูดถึงดิสนีย์แลนด์ ใคร ๆ ก็จะนึกถึงปราสาทในเทพนิยาย เจ้าหญิงผู้แสนเลอโฉม ตัวการ์ตูนอย่าง Micky Mouse, Minnie Mouse, Donald Duck และอื่น ๆ อีกมากมายมาเป็นขบวนพาเหรด ให้เราตื่นตาตื่นใจเล่น แต่กับสาวน้อย (อัญ-เรายังถือว่าน้อยหรอ555) นักวิ่งคนนึง ผู้ซึ่งใฝ่ฝันมาตลอดกับโลกเทพนิยายแห่งนี้ เมื่อวันหนึ่งได้รู้ว่า มีงานวิ่งที่จัดในสวนสนุกของดิสนีย์แลนด์ มันทำให้หัวใจของเธอนั้นพองโต จนต้องพยายามวิ่งตามความฝันของเธอให้จงได้
HIP RUN เล่มนี้ขอนำเสนอ ‘หมออัญ’ ผู้ไล่ตามความฝันสู่ดิสนีย์เวิล์ดมาราธอน!
Q: ต้องขอให้แนะนำตัวก่อนเลยครับ
A: นลัทพร เดชพุทธวัจน์ ค่ะ ชื่อเล่นชื่อ อัญ รับราชการเป็นทันตแพทย์ อยู่โรงพยาบาลชุมชน ที่อำเภอพร้าว อายุ 32 ปี แต่ก่อนเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ (ตั้งแต่เด็ก) แต่มาเลิกเล่นตอนเรียนมหาวิทยาลัย แล้วกลับมาเริ่มวิ่งอีกที ตอน 2015 ปลายปี แล้วก็ค่อยๆ จริงจังมาเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้
Q: ปกติลงงานวิ่งเยอะมั้ย?
A: ปีสองปีแรก ลงเยอะนะ แต่หลังๆ เริ่มเบื่อๆ ก็เลยลงเฉพาะงานที่อยากลงจริงๆ ที่มันท้าทาย
Q: เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าว่า อะไรที่ทำให้เรามารู้จักงานวิ่งของดิสนีย์งานนี้
A: ปกติเราก็ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว อะไรที่มันคิวท์ ๆ แบบนี้ จนมีอยู่วันนึง เราไปเจออินสตาแกรมของดิสนีย์ แล้วปรากฏว่า อินสตราแกรมของดิสนีย์ เขาก็โพสเหรียญที่เป็นเหรียญเจ้าหญิงของดิสนีย์ เราก็เริ่มสนใจไง ว่าอะไรยังไง เราก็เริ่มตามข้อมูล ของ Run Disney มาเรื่อยๆ ตั้งแต่นั้น แล้วก็ตั้งเป้าว่า สักวันหนึ่งเราจะไปวิ่งงานของดิสนีย์ให้ได้
Q: แล้วทำไมถึงตัดสินใจจะไปวิ่งปีนี้
A: เป็นเรื่องของวีซ่าด้วยแหละ ว่าเราทำวีซ่าอเมริกาไว้สิบปี แล้วเคยไปแค่ครั้งเดียว เราก็เลยคิดว่าจะไปอีกสักครั้งดู ช่วงนั้นเท่าที่ทำการบ้านมา ก็มีสองงานที่น่าสนใจก็คือ ‘Disney Princess Half Marathon Weekend’ กับ ‘Walt Disney World Marathon Weekend’ แต่เราดูช่วงเวลากับความคุ้มค่าในการเดินทางแล้ว เราก็เลยเลือกงานหลัง
Q: แต่ผมเคยเห็นหมออัญ โพสรูปเหรียญได้ตั้ง 6 เหรียญ แต่ไปวิ่งแค่รายการเดียว?
A: จริง ๆ แล้ว ตัว ‘Walt Disney World Marathon Weekend’ มันประกอบไปด้วยงานวิ่ง 4 งาน และ 2 Challenge คือ วิ่ง 4 วัน โดยแบ่งเป็น 5k, 10k, Half Marathon และ Full Marathon เรียงกันไปวันละระยะ และ ถ้าวิ่งจบ ฮาล์ฟมาราธอนและฟูลมาราธอน จะได้เหรียญ Goofy และ ถ้าวิ่งครบ 4 งานเลย จะได้เหรียญรูป Dopey (ตัวคนแคระจากเรื่อง Snow White) อีกเหรียญ รวมได้ 6 เหรียญ ซึ่งสองอันหลังนับเป็น Challenge ของ Goofy และ Dopey ตามลำดับ
Q: แล้วคิดอะไรอยู่ ทำไมลง 4 รายการติดเลย?
A: เอาจริงๆ นะ ไหนๆ ไปแล้ว ก็ไปให้มันสุด ก็เอาให้มันคุ้มดิ เราอยากได้ทุกอัน (หัวเราะ)
Q: เอาจริงๆ มันไม่ได้ง่ายนะ ที่จะวิ่งได้ 4 งานติดในทุก ๆ วัน แล้วระยะเพิ่มขึ้นมาอีกนะ มันต้องอาศัยความพยายามในระดับหนึ่งเลย
A: จริงๆ เราก็รู้นะ ว่ามันทำยาก แค่ซ้อม ก็ยังยากเลย แต่เราตัดสินใจไปแล้ว เราก็ต้องทำให้ได้
Q: แล้วการซ้อม หมออัญซ้อมยังไงครับ
A: ก็ตอนนั้นน่ะ ลงรายการไว้ รายการ Until the Sundown น่ะ (วิ่ง 70 กม.) ก็รู้สึกว่า ถ้าเราวิ่งงานนี้ได้ งานดิสนีย์ชั้นก็ต้องทำได้ เราสมัครงานดิสนีย์ก่อนไป Until เราก็เลยซ้อม เพื่อไปซ้อมที่งานนี้ เพื่อซ้อมไปงานดิสนีย์ อีกที .... เอ๊ะ ทำไมฟังดูงงๆ (หัวเราะ) แต่หลัง ๆ ก็มีซ้อม Back 2 Back (ซ้อมวิ่งไกล ต่อเนื่อง) บ้างเพราะว่า ถ้าเราไม่ซ้อม กลัวร่างกายไม่ชิน
Q: แล้วที่บ้านคิดยังไงบ้าง ที่เราจะไปวิ่ง 4 วันติดแบบนี้ ?
A: (หัวเราะ) ทีแรกคิดว่าจะไปคนเดียว แต่แม่ก็เป็นห่วงมากเพราะว่า เคยเป็นฮีทสโตรค ตอนไปลากูน่าภูเก็ตมาราธอน ตอนนั้นไปกับเพื่อน แม่ไม่ได้ไปด้วย พอบอกว่าจะไปคนเดียวแม่ก็เป็นห่วง กลัวไม่มีใครดูแล แม่เลยไปเป็นเพื่อน เราก็ต้องคอยย้ำกับแม่ตลอดว่า เราไปวิ่งแฟนซีนะ ไม่ต้องห่วงงงง
Q: แล้วการเดินทางไปแข่งต่างประเทศอย่างอเมริกา นี่เดินทางยากไหม?
A: ปกติมันไม่มีบินตรงนะ มันต้องไปต่ออีกหลายต่อ เช่น ลงนิวยอร์ค ก่อนแล้วค่อยไปออลันโด้ ฟลอริด้า (ที่ตั้งของ Walt Disney World) เดินทางค่อนข้างนาน และ ราคาค่อนข้างสูง ทีแรกไม่คิดว่าตั๋วเครื่องบินมันจะแพงขนาดนี้นะ แต่เราเลือกที่จะไปแล้ว เราก็ต้องเปย์เนอะ แทบจะต้องขายไตกันไปวิ่งเลยทีเดียว (หัวเราะ)
Q: แล้วไปวิ่งแฟนซีจริงหรอ?
A: จริงๆ การไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ให้ครบทุกที่ในโลกเป็นความฝันของเรานะ แล้วไหน ๆ ก็จะได้ไปวิ่งในดิสนีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้วด้วย แถมตัวการ์ตูนก็เยอะเต็มไปหมดเลย ที่มาให้เราได้ถ่ายรูปด้วยระหว่างทางที่วิ่ง เราก็เลยคิดว่าจะวิ่งไวไปทำไม ขอรูปสวยดีกว่า จริงมั้ย?
Q: ไหนๆ ก็พูดถึงงานวิ่งของ ‘Walt Disney World Marathon Weekend’ มาแล้ว ขอหมออัญช่วยอธิบายเกี่ยวกับการวิ่งทั้ง 4 แบบให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ
A: คือมันก็จะถูกแบ่งรายการออกเป็น...
1. Walt Disney World 5k - วิ่งกันวันแรก ไม่มีการแข่งขัน นักวิ่งจะเยอะเป็นพิเศษ เพราะเป็นระยะสั้นๆ คนเข้าถึงง่าย ส่วนเราก็ไม่มีอะไรมาก ไปแบบแฟนซี วันนั้นแต่งตัวเป็นแมวมารี ขอรูปสวยๆ แล้วได้เหรียญ งานแรกล่อไปชั่วโมงกว่า ๆ กับระยะ Fun Run เพราะมัวแต่ต่อแถวถ่ายรูปกับตัวการ์ตูน (จะถ่ายรูปกับตัวการ์ตูน จะต้องต่อแถวถ่ายรูป)
2. Walt Disney World 10k - ธีมทุกปี จะเป็นเหรียญ Minnie Mouse คนก็ยังเยอะอยู่ มีชิงรางวัลด้วย แต่เราก็ไม่เอานะ เราตั้งใจแฟนซีอยู่ สู้ฝรั่งไม่ได้ด้วยแหละ (หัวเราะ) วันนั้นเราแต่งเป็นเจ้าหญิง Belle จาก Beauty and the Beast ตัวการ์ตูนโปรดของเรา และไปถ่ายรูปกับตัวการ์ตูนที่เรารู้จักตลอดทาง อันไหนไม่รู้จัก ไม่คิ้วท์ ก็ไม่หยุดนะ แต่การ์ตูนบางตัวแถวยาวเราก็จะต้องรอนานหน่อย เพื่อที่จะได้รูปคิ้วท์ ๆ งานนี้ ใช้เวลาวิ่งไปชั่วโมงกว่าๆ พอๆ กับระยะ Fun Run เมื่อวานเลย (หัวเราะ) โดยสองงานแรก จะได้วิ่งแค่ใน Kingdom เดียว จาก 4 Kingdom ชื่อว่า Epcot
3. Walt Disney World Half Marathon – คอนเส็ปท์ของเหรียญ จะเป็น Donald Duck เราก็เลยแต่งตัวเป็น Donald Duck ไปวิ่ง วันนี้จะได้วิ่ง 2 Kingdom ซึ่งปกติ จะต้องนั่งรถบัส หรือโมโนเรล ไป แต่นี่ เราวิ่งไปค่า เราจะได้ผ่านจุดที่เรียกว่า Magic Kingdom ซึ่งมันจะมีปราสาทซินเดอเรลล่าตั้งอยู่ เหมือนกับเป็นแลนด์มาร์กในดิสนีย์แลนด์ทุกที่ในโลกเลย แล้วการที่เราได้แต่งตัวเป็นตัวการ์ตูนดิสนีย์วิ่งเข้าไปใน Magic Kingdom ได้ไปถ่ายรูปกับปราสาทตอนมืดๆ ที่มีไฟประดับทั้งหลัง ทำเอาความฝันของเราถูกเติมเต็มไปในทันที เรียกได้ว่าฟินมากตอนที่วิ่งเข้าไปแล้วเห็นครั้งแรก สรุปใช้เวลาไปทั้งหมดเกือบ 3 ชม. เจอแดดร้อนไปพอสมควร
4. Walt Disney World Marathon - เป็นงานวิ่งมาราธอน และเป็นงานวิ่งวันสุดท้าย ปล่อยตัว 05:30 น. วันนี้จะวิ่งผ่านสวนสนุกทั้ง 4 Kingdom รวมไปถึง ESPN Wide World of Sports Complex ด้วย ตอนแรกตั้งเป้าไว้ว่า จะวิ่งสัก 5 - 6 ชม. (คัทออฟ 7 ชม.) คือกะจะแวะถ่ายรูปทุกจุด แต่ว่าสายๆ มาแดดมันแรงมาก เลยตัดสินใจ วิ่งให้จบเร็วขึ้น เพราะกลัวเป็นฮีทสโตรคอีกรอบ พยายามคุมเวลามากขึ้น (แต่ก็ยังแวะถ่ายรูปกับตัวการ์ตูนเกือบทุกตัวอยู่ดี) เพราะถ้าฮีทสโตรคกลับมาเล่นงานเรา จาก 6 เหรียญที่จะได้ จะเหลือ 3 เหรียญ แล้วสิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะไร้ประโยชน์ทันที ตอนวิ่ง ก็วิ่งไปเรื่อย ๆ ก็เจอตัวการ์ตูนที่เรารู้จักโผล่มาเรื่อย ๆ และได้วิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมกับโรงแรมของดิสนีย์ ถนนไฮเวย์ของดิสนีย์เอง เรื่องน้ำและเกลือแร่ ก็ดีตลอดทาง มีอาสาสมัครมาช่วย แล้วถ้าเราได้วิ่งผ่านสวนสนุกตอนช่วงที่สวนสนุกเปิดแล้ว เราก็จะได้ยินเสียงเชียร์จากแขกของสวนสนุกอีกต่างหาก ฟินไปอีก
ส่วนช่วงที่พีค ก็น่าจะช่วง กม.35 ช่วงนั้นแดดร้อนมากไม่ไหวแล้ว หมวกก็ไม่ได้ใส่ เดี๋ยวไม่เข้ากับคอสตูมที่แต่งเป็นสโนวไวท์ในวันนี้ ก็เลยตัดสินใจเดินครั้งแรกในการแข่งขันวิ่งทางถนนทั้งหมดในชีวิต (ฟังไม่ผิดครับ หมออัญไม่เคยเดินในระหว่างการแข่งขันเลยสักครั้งเดียว) แต่เดินได้แป๊บเดียวเท่านั้นแหละ ก็มีฝรั่งมาเชียร์ มาให้กำลังใจตลอด ทำให้เราเดินไม่ลงเลย มีกำลังใจวิ่งตลอด ก็เลยวิ่งไปได้เรื่อย ๆ จนจบระยะมาราธอน แต่ๆๆ !! ตอนจบ เขาไม่ได้มีเสื้อ FINISHER ให้เหมือนเมืองไทยนะ มีหมวก FINISHER หูมิกกี้เม้าส์ให้อันนึง ส่วนเสื้อ ให้เราไปซื้อเองจ้า ที่สำคัญ มีขายตั้งแต่วันรับเบอร์วิ่งแล้วด้วย เรานี่ซื้อมาใส่เปลี่ยนวันนี้เลย จะได้อิน...เอ้อ อีกอย่าง รู้ไหมว่า งานนี้สามารถ Qualify ไปบอสตันได้ด้วยนะ ใครสนใจมาทำเวลาเพื่อที่จะไปสนามบอสตัน ก็มาลองกันได้นะ
5. Goofy’s Race and a Half Challenge มันคือ เป็นชาเลนจ์อีกแบบ คือ ต้องจบฮาล์ฟ กับฟูลมาราธอน แล้วจะได้เหรียญ Goofy สำหรับผู้ที่พิชิตชาเลนจ์นี้ได้
6. Dopey Challenge เป็นชาเลนจ์ที่ท้าทายที่สุดของงาน คือ ต้องวิ่งให้จบ รายการ 1-4 ที่กล่าวมา เพื่อที่จะได้เหรียญของ Dopey (คนแคระคนสุดท้องในเรื่องสโนวไวท์)
Q: ฟังดูแล้ว อนาจักรดิสนีย์ที่นี่ใหญ่มากเลยนะครับ
A: ประมาณ 25,000 เอเคอร์ เราก็เคยลองจิ้มเครื่องคิดเลขนะ มันประมาณ 100 ล้านตารางเมตรค่ะ
Q: เยอะจัดเลย แล้วชอบอะไร ประทับใจอะไรมากที่สุดของการแข่งขันนี้ครับ
A: ชอบพวกอาสาสมัคร คนเชียร์เยอะ ๆ น้ำท่าโอเค และที่สำคัญที่สุด คือพวกตัวคาแรคเตอร์ ตัวการ์ตูนที่รอเราอยู่ข้างทาง สถานที่วิ่ง มันเหมือนในจินตนาการ ไม่สิ มันเหนือความคาดหมายของเราเข้าไปอีก นี่มันที่ของชั้นนนน... วิ่งไปก็มีความสุขไป สนุกที่สุดในชีวิตแล้วแหละ นอกจากนี้ หลังการแข่งขันแต่ละวัน เวลาเดินไปไหนในอาณาจักรดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็นบนรถเมล์ โรงแรม ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง ไม่เว้นแม้กระทั่งในสวนสนุกแต่ละ Kingdom จะเจอแต่คนห้อยเหรียญเดินกันเต็มไปหมด แล้วก็จะได้ยินแต่คำว่า ‘Congratulations’ บรรยากาศน่ารักดี
Q: แล้วอะไรที่เราไม่ชอบบ้าง ของสนามนี้
A: อากาศอ่ะ อากาศตอนเช้าตอนรอปล่อยตัวหนาวมาก ลมแรง แต่พอสายๆ มาก็ร้อน ยิ่งตอนที่วิ่งมาราธอน ปล่อยตัวช้าไป ร้อนมาก กลัวเป็นฮีทสโตรค อีกอย่างก็เรื่องการเดินทาง เรามาจากเมืองไทย กว่าจะไปถึงอเมริกา ก็ใช้เวลานานมากไปหน่อย
Q: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่อยากไปสนามนี้หน่อยครับ
A: เก็บตังค์เลยค่า เก็บเยอะๆ เลยนะ แล้วก็ซ้อมเยอะๆ ค่ะ
Q: สุดท้ายแล้ว ขอคำอธิบายสั้น ๆ ของสนามวิ่งสนามนี้หน่อยครับ
A: ‘Every Mile is Magic’ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ นะ ทุกก้าวที่เราวิ่ง มันคือความสุข มันเป็นเวทย์มนต์ที่ทำให้เรามีความสุขตลอดเส้นทางจริงๆ เป็นไปได้อยากให้มาลองกันเยอะๆ นะคะ
เรื่อง / ภาพ : หมออัญ
สัมภาษณ์ : อาเหลียง